งานแต่ง “ปัท-เบิ้ล” ภูเก็ต เกาะพีพี

14 11 2005
เย็นวันพฤหัสฯ..
 
รีบชิ่งจากที่ทำงาน สะพายเป้ ตรงดิ่งไปงานแต่งงานเพื่อนเบิ้ล เป้าหมายงานนี้ "ภูเก็ต"
 
ขึ้นแท็กซี่หน้าที่ทำงาน "ไปสายใต้ใหม่ครับ"
"ไปทางไหนดีครับ"… ในใจตอบว่า.. "kuจะรู้เรอะ"  แต่ความจริงตอบว่า "ทางไหนก็ได้เร็วๆ อ่ะครับ"
"งั้นต้องไปลง… แล้วไปขึ้นสะพานพระรามแปด"   "ได้ครับ ผมก็ว่าทางนั้น" แต่ในใจ… "คงงั้นหล่ะมั้ง?"
 
เร็วจริงดังว่า ถึงสายใต้ใหม่ในเวลาไม่เกิน 45 นาที.. เร็วดี ถึงสถานีรถก็ตีตั๋วไปภูเก็ต ใช้เส้นของเพื่อนเล็กน้อย ล๊อคไว้ตอนเที่ยว 6 โมงเย็นไม่ระบุที่นั่ง จ่ายตังค์รับตั๋วแล้วก็นั่งเล่นแป๊บนึงก่อนขึ้นรถทัวร์
 
เย่… ได้นั่งรถทัวร์.. ขอสาวๆ นั่งข้างๆ หน่อยเห๊อะ…    เหอะๆ.. คิดอย่างได้อย่าง.. เซ็งหว่ะ..
 
นั่งรถไปดูแฮรี่พอตเตอร์ไป..เพลินดี.. หลับ….
 
เช้าวันศุกร์
 
อืม.. ตื่นมาดูนาฬิกา.. เวลา หกโมง.  รถยังวิ่งอยู่เลย ยังไม่ถึงเลยนิ? แต่ถึงไหนแล้วหว่า? ถลางหรือภูเก็ต.. ตาลายๆ อ่านอะไรไม่รู้เรื่องเลย นอนดีกว่า.. นอนได้หน่อย โทรศัพท์ก็ร้องเรียกเพรียกหา.. อื้มโหล.. ตอนนี้อยู่หนายไม่รู้ แต่ ku ง่วง.. ไว้เดี๋ยวถึง บขส. จะโทรหาอีกทีเน้อ..  วางสายก็หยืบยาหยอดตามาล้างตาหน่อยนึง.. อื้ม.. ใสขึ้น  อ้าว ภูเก็ตแล้วนี่หว่าเวน.. โทรศัพท์อีกที.. เห้ยเพื่อนเอ้ย มารับที ku ถึงแล้วหว่ะ แหะๆ ตะกี้ตาลายอ่านอะไรไม่ออกซ๊ากกะอย่าง โอเช เท่านี้น๊าาาา แล้วเจอกัน
 
ลงรถทัวร์อาบน้ำอาบท่า ว่าจะกินติ่มซำ.. อดเหอะ.. เจ้าบ่าวโทรตาม เห้ยขับรถเป็นป่าว มาขับให้ที .. ได้ๆ..รถมันใหม่สงสัยเกียร์ออโต้.. ไปถึงบ้านเจ้าบ่าว.. วะฮะๆๆๆ เพื่อนจรินท์ ขับให้ทีละกัน ขับเป็นแต่ออโต้หว่ะ.. รอดตัวไป..
 
ไปถึงบ้านเจ้าบ่าว เจ้าภาพเลี้ยงข้าวต้ม ไม่กล้ากินเยอะ ว่าจะแวะหาอะไรกินซะหน่อยก่อนเข้างาน เอ้า..เริ่มงาน จุดประทัดที่บ้านเจ้าบ่าว ตั้งขบวนแล้วก็นำกันไปบ้านเจ้าสาว เพื่อไปสู่ขอ(แต่เมื่อวานทำพิธีหมั้นที่บ้านเจ้าสาวไปแล้ว.. เรายังไม่ได้มา)
 
ถึงบ้านเจ้าบ่าวไหว้(พระ)ภูมิ ไหว้พระ ไหว้บรรพบุรุษ มอบสินสอด ถ่ายรูป แล้วก็พาคู่บ่าวสาวไปไหว้อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทร เพื่อขอพร ตำรวจอำนวยความสะดวกตลอดงานเสร็จแล้วก็เข้าสู่พิธีแต่งงานที่โรงแรม
 
เข้ามาถึงโรงแรม เพื่อนหนึ่งก็ทำตัวเป็น organize man ไปเรียบร้อยแล้ว คอยกำกับการจัดงาน เมื่อคืนก็ทำ presentation เราก็เลยรับหน้าที่ เปิด presentation ในงานตามคิวตามเพื่อนหนึ่งบอก ไปคุมโน้ตบุ๊คตามระเบียบ(แต่ ku ว่าจะมางานสบายไม่ต้องทำอะไรแล้วเชียว) โรงแรมก็แสนดีไม่ได้เตรียมงานอะไรไว้เลยเมื่อคืน เพิ่งจะมาจัดกันตอนเช้า ดีว่าเพื่อนหนึ่งมาก่อน ไม่งั้นสงสัยงานออกมาไม่สวยแหง๋ๆ 
 
เริ่มพิธีก็ยกน้ำชากัน ให้ผู้ใหญ่อวยพรบ่าวสาว รายชื่อแสนยาว…ยาว….มาก  ดีจริงๆเลย เพื่อนเก่าสมัยเทคนิคฯ สมัยมหาลัย ก็เลยถือโอกาสคุยกันซะ… กว่าจะยกน้ำชาเสร็จก็เกือบเที่ยง ได้เวลายกอาหารมาแก้ขัด แล้วก็ดำเนินงานกันไปจนเสร็จเรียบร้อย ก็เก็บงาน เก็บของ แล้วก็พาคู่บ่าวสาวไปไหว้ญาติผู้ใหญ่กันต่อ
 
*งานนี้มีชมรม O2 mini มาด้วยวุ้ย มีคนใช้รุ่นเดียวกันอยู่ 3 คน.. ก็คุยกันแต่เรื่องโอทู ตาก็มองงานแต่งปากก็คุยกันไปจนจบงาน
 
นั่งรถไปไหว้ ปู่ย่าตายาย ของทั้งคู่.. กว่าจะครบก็เย็นพอดี.. หกโมง.. เพื่อนเหรี่ยงก็นัดกันว่าสองทุ่มเดี๋ยวจะเลี้ยงอาหาร
มีคดี  เพื่อนหนึ่ง หลับอยู่ในห้องพักของโรงแรม หลับจนเพื่อนส่วนใหญ่กลับมาถึงหน้าห้องแล้ว ทั้งโทร ทั้งเคาะประตูก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิด ..เรียก room service ก็ทำอะไรไม่ได้ เพื่อนในกลุ่มก็เลยไขน๊อตออกมาซะเอง พอเข้าได้ก็มีเพื่อนบอยกระโดดเตะเพื่อนหนึ่งเรียกน้ำย่อย.. คิดถึงตอนเรียนเทคนิคเลยวุ้ย  คนโดนเต๊ะก็สลืมสลือ.. อ้าว.. มีไรกันเหรอ..  เฮ!! ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย!!
 
จบเรื่องก็ลงมากินข้าวที่ร้านอาหาร"นายยาว" เหรี่ยงสั่งอาหารไว้รอสองชุด.. ปูผงกระหรี่ ลูกชิ้นปลาลวก ห่อหมกทะเล ไก่ผัดผักบุ้ง(เค็มเป็นน้ำปลา เข้าใจว่าใช้น้ำปลาแบบหมักเอง หอมแต่เค็ม..มาก)  กุ้งชุบแป้งทอด ฯลฯ อร่อยดี แต่กินได้ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะรู้สึกเหนื่อยและก็นอนน้อย.. นอนบนรถเขย่าๆ แล้วรู้สึกเหมือนนอนไม่พอ.. คุยสรรเพเหระจบก็เกือบห้าทุ่มแล้ว ก็แยกย้ายไปนอน  ก่อนถึงบ้านเพื่อนเที้ยนก็แวะเอาไฮเนเก้นมากระป๋องนึง.. กินก่อนนอน.. จะได้หลับสนิทๆ..
 
เช้าวันเสาร์
 
ตื่นแต่เช้า โทรปลุกเพื่อนหนึ่งนัดออกมากินติ่มซำ ย้ายสาขากินแต่ชื่อร้านเดิม กินเสร็จก็เตรียมตัวไปเกาะพีพี ขึ้นไปบนโรงแรมไปดูห้องซะหน่อย เพื่อนที่ยังไม่ได้กินข้าวก็เปลี่ยนกันลงไปกิน สักพักเพื่อนบอยก็โทรขึ้นมา เห้ยทัวร์เค้าโทรมาบอกว่าเรือออกตอนแปดโมงครึ่ง.. อ้าวเห้ย.. เพื่อนบีมันบอกว่าออกเก้าโมงเช้าไม่ใช่เรอะ.. เอ้าๆ รีบๆกินรีบๆไป เพื่อนบีกับเที้ยนมารับไปส่งที่ท่าเรือ ดีที่เรือรอ โชคดีไป แต่ถึงยังไงก็ไม่มีอะไรจะเสียเพราะเราไม่ได้จ่ายตังค์ก่อน บุ๊คอย่างเดียว มาถึงท่าเรือก็ติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่อก แล้วก็ลงเรือได้เลย
 
ขึ้นเรือ.. ทำไมเรือมันโล่งนักอ่ะ สองชั้นห้องแอร์ ชั้นล่างไม่มีคน ชั้นกลางมีคนประมาณเกินครึ่งเรือนิดๆ มีคนที่ดาดฟ้าหน่อยๆ  คนน้อยจัง มองออกไปดูเรือลำข้างๆ ทำไมมันคนล้นหลามขนาดนั้นฟะ? ช่างเห๊อะ..
 
เรือออกได้สักพักก็มาเคลียร์เรื่องการเดินทาง
ค่าตั๋วเรือ 550 ไปกลับ
ค่าดำน้ำและอาหารกลางวัน 150 บาท รวมแล้วก็ 700 บาท(ไม่แพง ราคาเต็มประมาณพันสอง)
แต่ก็มีแว่วๆ มาบอกว่า มีแบบ 500 รวมทุกอย่าง ถูกลงไปอีก แต่คงเป็นเรือที่ขี่คอกันลำข้างๆ หล่ะมั้ง? คนล้นไปหมด
 
นั่งรถทัวร์ไปกลับกทม.-ภูเก็ต 1,200+ค่าเที่ยวเกาะพีพี 700 รวมแล้วก็ประมาณ 2,000 ก็มาเที่ยวเกาะพีพีได้แล้ว!!!
ถ้าจะนอนบนเกาะก็มีราคาถูกสุดที่ 800 – 1,500 หรืออยากจะไฮโซก็ 2,500->5,000 อันนี้แล้วแต่ชอบ ราคาต่อ 2คน/คืน
 
เรือออกก็เดินเล่นสำหรวจรอบๆ ลำ บรรยากาศดีมากๆ  สูดลมหายใจลึกๆ… ผ่อนคลาย….
 
เรือใหญ่ไปส่งที่เกาะมาหยา มีเรือขนาดกลางมารับ และมีเรือขนาดเล็กมารับอีกช่วง
 
เดินเล่นบนเกาะมาหยา 40 นาที ..มีแต่ฝรั่งมานอนอาบแดด จากนั้นก็นั่งเรือเล่นรอบเกาะไปเกาะพีพี เห็น ถ้ำปากฉลาม ถ้ำไวกิ้ง ผ่านนะ.. ผ่าน ไม่ได้แวะลงไปดู  พอถึงหน้าหาดยาว บนเกาะพีพี ทางเรือก็ให้ดำน้ำสนอกเกิ้ล ดูประการัง กะปลา สวยดี…  สักพักมีปลาโลมา ว่ายโชว์ตัวทั้งฝูง นานๆ จะได้เห็นใกล้ๆ สักที
 
ดำน้ำเสร็จก็ทานข้าวกลางวัน เดินเล่นหน้าหาดยาวสักพักก็ถึงเวลากลับ..
 
เที่ยวมา.. คิดอยู่ว่า เรือจะติดแอร์ไปทำไม? คนมาเที่ยวอยากได้บรรยากาศของท้องทะเลมากกว่า..
เที่ยวกลับ.. ดีนะที่มันเป็นห้องแอร์ หลับกลับสบายๆ.. ตื่นอีกทีก็ใกล้ถึงฝั่งพอดี.. ถ้าเป็นห้องธรรดาท่าทางจะแย่เหมือนกัน
 
กลับมาถึงฝั่งประมาณสี่โมงเย็น สิบห้านาที เพื่อนเที้ยนก็มารับไปอาบน้ำอาบท่าแล้วก็ไปหาอะไรกินกันต่อที่ แหลมหิน
 
แหลมหิน เป็นกระชังปลาแล้วทำร้านอาหารด้านบน จะกินก็สั่งเมนูไปแล้วก็ใช้สวิงช้อนปลาขึ้นมาตามสั่งเลย รสชาดสดมาก เมนูที่สั่ง ปลาแดงราดพริก เปลาเก๋าต้มเต้าเจี้ยว หอยแมลงภู่..ตัวใหญ่ยักษ์ขนาดเท่าหอยตลับ..ลวก ปูเนื้อพริกไทดำ สั่งเลย อร่อยทุกอย่าง!  อิ่มแล้วก็เดินดูปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชัง ไฮไลท์คงเป็นฉลามเสือ ปลาฉลามแต่ลายบนตัวปลาเหมือนลายเสือ พอใกล้ๆ จะกลับเพื่อนบีก็ตามมาด้วย ก็กินกันไปคุยกันไป ได้เวลาก็กลับบ้านแยกย้ายกันไปนอน
 
เช้าวันอาทิตย์
 
ตั้งต้นกลับบ้าน ออกจากบ้านเที้ยนแต่เช้าก็แวะซื้อเต้าส้อไปฝากคนกรุงฯ มีเหลือเท่าไหร่ก็เหมาหมดเพราะวันอาทิตย์ไม่ทำเพิ่ม ได้มาหกกล่องเอง จากนั้นก็แวะเข้าบ้านเพื่อนเบิ้ล(เจ้าบ่าว) พอดีมีรับเสด็จพระเทพฯ ก็รอจนขบวนเสร็จไปจนหมดแล้วก็จัดของขึ้นรถ กลับกทม!
 
….ตอนนี้เหรอ?  ก็ถึงบ้านแล้วไง … แล้วก็มานั่งเขียนบทนี้ทบทวนความทรงจำครั้งล่าสุด..ก่อนที่จะลืมเลือนไป…
 
 
 
JenkAlone!
 
ปล. เขื่อนแก่งกระจาน น่าสนใจ(เข้าใจว่าเป็นอุทยานแห่งชาติด้วย) ใกล้กว่าชะอำ น่าสนใจดี หมอกสวย 🙂 แค่นั่งรถผ่านเห็นหมอกยังชอบเลย!
ปล2. ภูกระดึง.. ใกล้จะเป็นหมันเข้าไปทุกที.. ทุกที…




ห้วยน้ำดัง ดินแดนแห่งสายหมอก (ต่อ..2)

1 11 2005
ตอนต่อ…2
 
ใครจะรู้.. ว่าหนาวๆ แบบนี้ถ้ามีคนรักให้กอดจะดีขนาดไหน.. เห้อ… งานนี้ไม่มี.. ฝันไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกัน… 
 
 
ลุกมาดูพระอาทิตย์ตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ล้างหน้าล้างตา เตรียมกล้องแล้วก็ออกเดิน ขึ้นรถ กระจกฝ้าจนแทบจะขับตกเขา มองก็ไม่เห็นหมอกลงหนามากๆ.. ดูๆ ไปก็เหมือนเมฆเหมือนกันนะ…
 
ตีห้า… หกโมง… จะเจ็ดโมงแล้ว.. พระอาทิตย์ยังไม่มาตอกบัตรเลย.. มีแต่หมอก สมคำขวัญจริงๆ.."ดินแดนแห่งมนต์หมอก"     หมอก ล้วนๆ
 
กลับที่พักกันดีกว่า.. ทำข้าวเช้ากินก็เก็บข้าวเก็บของ แล้วก็ออกเดินไป "ปาย" ฮุๆๆ สมใจๆ … นั่งรถวนไปวนมา วนมา วนไป… เริ่มมีคนแสดงอาการ…"จะอ้วก" ฮ่าๆๆ…. ขำๆ… เราไม่เป็นไรเลย วู๊….   ลงมาถึงปายก็หาตลาด.. ตลาดวายไปแล้วคร้าบบ เล่นมาถึงตอนสามโมงเช้า วายตั้งกะสองโมงเช้าแร๊น โอเช.. แวะหาจานดาวเทียม (จุดบริการข้อมูลนักท่องเที่ยว) รอพี่ Phiew คุยกะคนให้ข้อมูลก็หาแคบหมูกินแถวๆ นั้นแหละ ถุงละห้าบาท แทบซื้อมาแจกเลย.. กินแคบหมูกันตาย.. เพราะกระเพาะมันสั่งให้หิวซะแล้ว… ออกจากจุดให้ข้อมูลมาก็แวะเข้า "ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน" สั่งซะให้หายหิว.. ขาหมู สาวน้อยยูนนาน หมั่นโถว ผัดถั่วฝักยาว.. มันไม่ค่อยจะเหมือนเท่าไหร่แล้วก็ไม่ได้เรียกถั่วฝักยาวด้วย เหมือนถั่วฝักยาวบ้านเราแต่ใหญ่แล้วก็หวานกว่าเยอะ.. อร่อยไปซะทุกอย่าง ไม่แพงอย่างที่คิด!  กินกันอิ่มแล้วก็เดินหาของฝากตาม(ป้า)ระเบียบ..
 
ใครจะซื้อ "ชา" ไม่ว่าจะเขียวหรืออูลองให้กลับมาซื้อที่เชียงใหม่ครับ ถูกกว่ามาก 50-150 บาททีเดียว แต่ก็เหอะซื้อไปแล้วเหมือนกัน…อิอิ
 
 
เสร็จสรรพก็ออกเดินต่อ ไปแวะเที่ยว "น้ำตกหมอแปง" เจอเด็กตัวเล็กๆ วิ่งขึ้นผา เห็นแล้วก็พาลให้สงสัยว่ามันขึ้นไปง่ายนักเรอะไงฟะ วิ่งกันหยั่งกะพื้นราบ.. เหอะๆ ไปปีนอยู่สักพักกว่าจะถึงข้างบน ก็อีกแหละ เห็นเด็กมันสไลด์ลงมาจากหิน.. อืม..มันทำได้ไงฟะ.. แต่ในใจก็อยากลองสไลด์มั่ง.. ดูดูดูดู… แล้วใจมันก็สั่ง โดดเด่ะ โดด โดด.. ใจก็กล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ฟอร์มลื่นสไลด์ลงมา อิอิ..ไม่ได้ตั้งใจนะ มันลื่นลงมา… ku เปียกไปหมดทั้งเสื้อยืด..เกงยีนส์.. ดีมั่ก แล้วคืนนี้จะเอากางเกงขายาวที่ไหนนอนฟะ…   คิดอีกทีเดี๋ยวก็แห้งหว่ะ.. อากาศออกจะร้อนปานนี้ ออกจากน้ำตกก็แวะ "วัดน้ำฮู" ของแปลกของวัดนี้คือ..บริเวณเศียรพระจะมีน้ำผุดออกมา พระจะวักน้ำออกมาจากเศียรเพื่อมาทำน้ำมนต์ให้ชาวบ้านได้เอากลับบ้านกัน เราก็ขอมาขวดนึงด้วย ฮี่ๆๆ  บริเวณด้านหลังมีเจดีย์..สมเด็จพระศรีสุริโยทัย.. และด้านหน้ามีพระรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช… วัดที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร.. เข้าไปทีมีเยอะแยะเลย
 
ออกจากวัดน้ำฮูก็แวะเข้าตัวเมืองปาย ไปตลาดอีกรอบ.. ตลาดสดที่ปายมีสองรอบ เช้า หกโมงเช้าถึงสองโมงเช้า  รอบเย็นก็บ่ายสี่โมงครึ่งไปเรื่อยๆ จนทุ่มสองทุ่มก็วาย…
 
เดินเล่นในตลาด.. หาแปรงสีฟัน.. สู๊ดยอด..เจอบุหรี่..มวนโต..มวนใหญ่แท้น้อ ถุงเท่าไหร่หน่อคั๊บ? ประมาณ 24 มวน.. 20 บาท.. สุดยอดๆ ซื้อเล้ย…  ออกจากตลาดมาแวะ "วัดกลาง" หาซื้อส้มตำ… อาหารโปรดของมวลสมาชิก.. เราก็ด้วย ฮี่ๆ 
 
 
 
 




ห้วยน้ำดัง ดินแดนแห่งสายหมอก (ต่อ..1)

1 11 2005

ห้วยน้ำดัง ดินแดนแห่งสายหมอก (ต่อ..1)

 

เดินทางถึง ชม. (เชียงใหม่) แวะทานข้าวปลาแถวๆ ตลาดเช้า เท่าที่หาได้ ก่อนไปแม่บอกให้ลองหาหมูย่างกินดู อืม..หาเจอก็อร่อยจริงๆ แหะ เดินสะเปะสะปะไปๆ มาก็เจอไก่ทอดหาดใหญ่…มาไกลเนอะ ขนมครกก็มี สะใจตรงข้าวเหนียวเนี่ย อร่อยมากกก นุ่มมม แถมถูกตะหาก ครึ่งโล 20 แต่เยอะสุดยอด ใครได้ไปก็อย่าลืมแวะเวียนไปลองหากินดู อร่อยมั่กๆ อิ่มกันแล้วก็หาที่เที่ยวระหว่างทางไปห้วยฯ เจอแล้ว

จุดแรกก็ "น้ำตกหมอกฟ้า" ตกแรงมากๆ เป็นน้ำตกจริงๆ ไม่มีที่ให้เล่นน้ำสักเท่าไหร่.. แต่เจ้าเด็กน้อยสองคนก็ถือโอกาสได้เล่นน้ำตรงจุดนี้เป็นที่แรก.. ถือเป็นการอาบน้ำไปในตัวด้วยเลย เล่นน้ำเสร็จก็ไปอาบน้ำจริงๆ อีกรอบในห้องน้ำของอุทยานแห่งชาติ .. เพิ่งรู้อีกอย่างก็คือ บัตรของอช.(อุทยานแห่งชาติ) สามารถใช้งานได้… 5 วันแหน่ะ.. แถมใช้ด้วยกันได้หมดทุกอช.เลย.. แจ่มมากกก จ่ายครั้งเดียว เที่ยวได้รอบเลยทีเดียว

ออกจากที่แรกก็ไปแวะจุดที่สอง "โป่งน้ำเดือด" แว่ปลงไปดู สวยงามจริงๆ … แต่เล่นไม่ได้อ่ะ ให้ดูอย่างเดียว ถ้าลงไปโดนน้ำพุถือว่าฟาวล์… ผิดกฎหมายบ้านเมืองเลยนา… ขู่น่ากลัวจริงๆ หันไปหันมาก็ไม่เห็นมีอะไร .. รู้สึกจะมีที่ให้แช่น้ำร้อนด้วย แต่ไม่ได้ไปดู เข้าใจว่าทาง อช. จัดทำให้เป็นเหมือนห้องน้ำสวยๆ เลยหล่ะมั้ง? ไปต่อดีกว่า…

 

แวะไปแวะมาก็ถึง…. แต่น แตน แต๊นนน ห้วยน้ำดัง ครับ กระ พ้ม… มาถึงตั้งแต่บ่ายสอง… ไม่เห็นมีไรเร้ยให้ตาย.. เดินขนของ กางเต๊นท์.. อืม.. บรรยากาศดี กะได้ความสูงหล่ะมั้ง? เค้าอยากมากันเพราะอะไรฟะ? ไม่เห็นจะมีอะไรเลย มาก็ตั้งไกล… และแล้วอาหารมื้อแรกของเราก็ถือกำเนิดเกิดขึ้น…ภายใต้คอนเซ็ปท์… "ข้าวไหม้เพราะไม่ชินกับชนิดข้าว" .. สุกทั่วเลย.. อิอิ ข้าวกรอบ.. เอาเหอะ แต่ก็อร่อยนะ ขอบอก… หิวป่าวก็ไม่รู้ มีคนรู้ทันรีบแอบหลับไปก่อนเลย จะใครที่ไหน.. ก็คนขับรถของเรานี่เอง ฮ่าๆๆ ไหนๆ ก็เหนื่อยมาทั้งวัน เก็บของไปอาบน้ำดีกว่า…

 

…. แอ๊ด…ห้องน้ำ.. ไม่มีคนเลยวุ้ย… โอ๊ะๆๆ ด้านหลังมีห้องน้ำ Open air… ซะหรู.. มันคือห้องน้ำไม่มีหลังคาดีๆ นี่เอง เอาห้องเนี้ยแหละฟะ แจ่มมั่ก โดนแดดเผื่อจะไม่หนาวมาก… ราดน้ำขันแรกโดนแขน… บรื๋ออออส์ หนาวไปถึงกระดูก.. คิดถึงภูกระดึงจังเล้ย… ถูๆ สบู่ ตามด้วยราดน้ำอย่างเร็ว… ไม่นับขันกันหล่ะทีนี้ สะอาดเสร็จก็ขึ้นแล้ว ไม่อยู่แว๊ววว หนาวโค๊ด อาบน้ำเสร็จก็กระโดดเข้าที่นอนโดยไว.. เห้อ..เพื่อนโต้ง.. ลงเขาไปไหนแล้ววะ.. เอากล้อง ku คืนมาด้วยนะเว้ย… หนีไปถ่ายรูปแถวๆ ตีนเขาแถวที่พักคนเดียว เป็นไปได้.. เพื่อนฉาน… เราหลับดีกว่า.. คร่อก… ….

 

อืม.. กี่โมง? กี่โมง? เหอ..เกือบทุ่ม…อากาศเย็นขึ้น.. เย็นขึ้น… เหอะๆ เย็นดีจัง ดีนะที่อาบน้ำไปก่อนแร๊ว.. รอดตาย อืมหอม… มาม่ารอบเย็นมาแร๊น.. มีแตงกวาด้วย ต้มยำปลากระป๋อง… ปลากระป๋องกรอบ… อารัยๆ ก็อร่อย.. กินเสร็จก็เริ่มหาเรื่องคุยกัน… …คุยๆ.. คุยๆ… ง่วง.. นอนดีกั่ว.. วั

 

นนี้หมดแรง หลับไปได้หน่อยก็… "พี่ครับๆ ..ขอโทษครับ ขอตรวจตั๋วหน่อยครับ" หือ? อช.มาตรวจตอนเนี้ยเนี่ยนะ.ดูเวลาสงสัยจะสองทุ่มกว่าๆ "ขอโทษทีครับ คนขึ้นมาเยอะ เลยตรวจไม่ทัน รบกวนด้วยครับ" "เอ่อพี่ครับ โน่นเลยครับเต๊นติดๆกันเนี่ย ..เอ้าเรียกให้ก็ได้ ลุง Phiew ตื่นว้อย เอาตั๋วมาด้วย" หมดเหตุการณ์… ก็หลับไปอีกงีบ… "เห้ยๆ เจ๋ง ตื่นๆ ไปดูหมอกกัน" … โหลุง.. ตื่นมาก็เอาเลยเรอะ เอ้าลุกมาตอนสี่ทุ่มกว่าๆ .. อืม..คุ้มแหะ หมอกจริงๆ เหมือนเดินอยู่กลางเมฆ ยังไงยังงั้น สวยมาก.. แต่ไม่มีใครตื่นมาดูเลย สงสัยจะเก็บแรงไว้ดูพระอาทิตย์ยามเช้า.. เดินดูเมฆหมอกสักพัก.. ก็กลับมานอนเอาแรง พรุ่งนี้ต้องตื่นตอนตีสี่ครึ่ง ดูพระอาทิตย์ขึ้น…. ….หลับอีกที กว่าจะหลับได้..น้ำค้างหล่นมาหยั่งกะฝนตก แปะ แปะ แปะ..หลับเหอะเรา…..